อย่ามัวอ่านหนังสือ
น้องที่วางแผนจะเข้าคณะที่แข่งขันสูง อย่ามัวเสียเวลาอ่านหนังสือ.. เพราะไม่มีการสอบที่ไหนวัดว่าใครรู้เยอะกว่า มีแต่การสอบที่วัดว่าใครดึงความรู้มาแก้โจทย์ได้มากกว่า ใครที่ทุ่มเทเวลาฝึกสิ่งที่ใช้จริงตอนสอบจริงจะได้เปรียบ ซึ่งก็คือการฝึกทำโจทย์
ฝึกทำโจทย์แล้วดูเฉลย
ใครที่ฝึกแบบนี้แต่ก็ยังไม่ได้ผลที่ต้องการ จากสถิติ 93%ของผู้เข้าสอบ (วิชาสายวิทย์) ได้คะแนนต่ำกว่า 50/100 นั่นแปลว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้วิธีเตรียมตัวที่ทำคะแนนสอบได้สูง อีก 4% ได้คะแนน 50-70 และมี 3% บนสุดที่ได้เกิน 70 ซึ่งเป็นเกณฑ์ปลอดภัยที่มั่นใจได้ว่าจะติดคณะที่ต้องการ
อะไรทำให้ได้เปรียบในการสอบ?
อะไรคือสิ่งที่ผู้เข้าสอบ 3% บนทำ ในขณะที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร..หรือรู้แต่ก็ทำไม่ถูกวิธี จุดแตกต่างที่ชัดเจนคือ คนส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการเอาความรู้ใส่สมอง ส่วนคน 3% บนทุ่มเทเวลาไปกับการฝึกดึงความรู้ออกมาใช้อย่างถูกวิธี
ถูกวิธีคือยังไง?
คุณต้องฝึกให้เหมือนตอนสอบจริงๆ คือฝึกดึงความรู้ออกมาใช้ ”ในเวลาจำกัด” โดย ”ไม่มีตัวช่วย” นี่คือจุดแรกที่พลาดกัน คือฝึกโจทย์แต่ไม่จับเวลา หรือจับเวลาแต่แอบใช้ตัวช่วย แต่ก็มีคนที่ฝึกโจทย์แบบจับเวลาและไม่มีตัวช่วย แต่ก็ยังทำไม่ได้คะแนนที่หวังไว้
กับดักอยู่ที่เฉลย
หลายคนที่ฝึกแก้โจทย์แล้วเรียนรู้จากเฉลย ซึ่งเฉลยส่วนใหญ่วิธีคิดเกินเวลาสอบจริง สังเกตจากความยืดยาวครึ่งค่อนหน้า หรือถ้าเป็นคลิปเฉลยก็จะยาวเกินเวลาสอบ เช่น ข้อสอบให้ทำ 90 นาที แต่เฉลยไปเกือบ 3 ชม. ต่อให้เรียนรู้จนทำตามได้เป๊ะ ก็ทำไม่ทันอยู่ดี แบบนี้ต้องทำไง?
กับดักเรียนพิเศษ
หลายคนลงเรียนพิเศษเพื่อให้ได้เทคนิคการแก้โจทย์ที่รวดเร็ว ซึ่งก็อาจจะได้บ้าง แต่คุณก็จะเสียเวลาฝึกแก้โจทย์ไปเยอะ เพราะคอร์สเรียนส่วนใหญ่ เรียนด้วยวิธี ฟังครู ดูกระดาน จดตาม ครูพาทำโจทย์ เวลาส่วนใหญ่ตอนเรียนหมดไปกับการป้อนความรู้เข้าสมอง
ครูพาทำโจทย์ คือฝึกแก้โจทย์?
หลายคนเข้าใจว่า ครูพาทำโจทย์คือการฝึกที่ได้ผล แต่มันไม่ใช่แบบนั้น เพราะมีครูคอยบอก คอยแนะนำอยู่ตลอด แต่ในห้องสอบไม่มีตัวช่วย และที่สำคัญในคลาสเรียนมีเวลาจำกัด ถ้าจะปล่อยเวลาให้ผู้เรียนฝึกหาคิดหาคำตอบให้เต็มที่ก่อนจะเฉลย ก็คงได้ไม่กี่ข้อและสอนไม่ทัน สุดท้ายก็ต้องรีบเฉลย ผู้เรียนก็ ฟังครู ดูกระดาน จดตาม ใช้เวลาไปกับคอร์สเรียนที่ยาวนาน ชม.เพื่อป้อนความรู้เข้าสมองอีกแล้ว ไม่ได้ฝึกดึงความรู้มาใช้ ปัญหาก็วนลูปกลับไปที่เดิม
สรุป 3 จุดพลาดเตรียมตัวสอบ
1. เสียเวลาไปกับการอ่าน (ป้อน) จนไม่ได้ฝึกแก้โจทย์ (ดึงมาใช้)
2. ฝึกแก้โจทย์ แต่วิธีคิดในเฉลยใช้จริงตอนสอบแล้วทำไม่ทัน
3. เรียนเสริมเทคนิคก็วนกลับไปถูกป้อน (ฟังครู ดูกระดาน จดตาม) แถมใช้เวลาเยอะตาม ชม.เรียน
แก้ปัญหาให้ตรงจุด
เราจึงตั้งใจทำคอร์สเรียนอีกแบบหนึ่ง ที่คุณจะได้ฝึกดึงความรู้ออกมาใช้ตลอดเวลาที่เรียน ผ่านโจทย์ฝึกเรียงจากพื้นฐานไปถึงข้อสอบแข่งขัน โดยเฉลยวิธีคิดทุกข้อทำทันเวลาตอนสอบจริง และใช้เวลาเรียนน้อยกว่าคอร์สทั่วไป 2-3 เท่า
เรียนรู้ได้มากขึ้นโดยใช้เวลาน้อยลงใช้
…
แล้วได้ผลไหม?
ลองทำมา 4 ปี ผลคือ น้องๆที่ฝึกแบบนี้ 50 ชม. ทำคะแนนสอบได้สูงกว่าเรียนแบบป้อนความรู้ 100 ชม. ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะเมื่อได้ฝึกในสิ่งที่ต้องใช้ตอนสอบ ย่อมต้องทำคะแนนได้ดีกว่าอยู่แล้ว ตรงไปตรงมาแบบนี้เลย พูดแบบนี้ยังไม่เห็นภาพว่าทำยังไง งั้นเราจะลิสท์ให้เป็นข้อๆ
สิ่งที่คุณจะได้รับ
1. ใช้โจทย์นำเนื้อหา วิธีนี้จะช่วยคุณให้หายจากอาการ “เรียนเข้าใจแต่ทำโจทย์ไม่ได้” เพราะสมองชอบการเรียนรู้วิธีนี้มากกว่าถูกป้อน
2. โจทย์ฝึกคัดคุณภาพ เรียงง่ายไปยาก แบบไล่เช็คทุกจุดที่ออกสอบได้
เข้าใจแบบลึกๆ ทำโจทย์ได้เยอะๆ ในเวลาไม่กี่วัน
…
3. ได้เรียนวิธีแก้โจทย์ที่ใช้จริงตอนสอบแล้วทำทันเวลา ต่างจากเฉลยส่วนใหญ่วิธีคิดเกินเวลาสอบจริง (เช่น ข้อสอบให้ทำ 90 นาที เฉลยไปเกือบ 3 ชม. ถึงจบ ต่อให้คุณทำตามได้คล่องก็ไม่ทันเวลาอยู่ดี)
4. ได้เทคนิคการทด ตีโจทย์ จุดเริ่มต้นการคิดที่ไปหาคำตอบได้เร็ว คุณจะทำข้อสอบได้เร็วขึ้นอีก
ได้ฝึกโจทย์คุณภาพ
…
5. หนังสือรวมเนื้อหาแต่ละบท ที่อธิบายละเอียดทุกคอนเซปต์แบบกระชับด้วยภาษาพูด เหมือนมีคนมาเล่าให้ฟัง เพื่อให้คุณอ่านเข้าใจง่าย ได้คำตอบได้เร็ว
6. เคล็ดลับ ช็อตโน้ต กำจัดจุดอ่อน ดันคะแนนไปท็อปห้อง ท็อประดับชั้น และถ้าคุณต้องการก็ไปถึงท็อปประเทศได้
ถีบตัวเองขึ้นมาแถวหน้า คว้าคะแนน TOP (เคสแบบนี้เจอบ่อย)
…
7. เซฟเวลา เพราะไม่มีการบ้าน ไม่ต้องเผื่อเวลาหลังเรียนไว้ทำการบ้าน เพราะคุณจะได้ฝึกทำโจทย์จนคล่องตั้งแต่ในคอร์สเลย
8. ได้เวลาคืนไปเกือบร้อยชั่วโมงต่อเทอม เพราะคอร์ส 1 เทอมที่นี่ใช้เวลาเรียน 24 ชม. ก็จบได้ (คลิปเรียน 16 ชม.+ ฝึกแก้โจทย์ 8 ชม. โดยเฉลี่ยบวกลบนิดหน่อย)
*เทียบจากคอร์สดั้งเดิมที่ใช้เวลาเกิน 100 ชม.ต่อเนื้อหา 1 เทอม (คือเรียน 70-100 ชม.+เวลาทำการบ้านอีก 20-30 ชม.) เมื่อน้องเปลี่ยนมาเรียนคอร์สที่นี่จะเซฟเวลาได้เทอมละ 60-100 ชม.
9. แก้อาการ “ขึ้นบทใหม่ลืมบทเก่า” เพราะการเรียนที่ใช้โจทย์นำเนื้อหา สมองจะเก็บความรู้ที่เรียนไว้อย่างถูกที่ถูกทาง มีการเชื่อมโยงความรู้กันเพื่อให้ดึงมาใช้งานได้สะดวก และกลายเป็นความทรงจำระยะยาวได้เร็ว (และนี่คือเหตุผลที่คุณจะทำโจทย์ได้คล่องขึ้นเรื่อยๆ)
ได้เรียนด้วยเทคนิคเจ๋งๆ ที่มีเฉพาะที่นี่
…
10. ไม่ต้องเหนื่อยซ้ำซ้อน ตอน ม.6 เตรียมสอบเข้าฯ คุณไม่ต้องเสียเวลาเรียนย้อนทบทวนของ ม.4-5 ซ้ำอีก เพราะยังจำได้อยู่ สามารถตะลุยข้อสอบต่อไปเลย (คุณจะได้เวลาเพิ่มมาอีก 200-300 ชั่วโมง จากการที่ไม่ต้องเรียนคอร์สเอ็นฯย้อนทวนตั้งแต่ ม.4 อีกรอบ)
11. แชทถามครูกุ๊กได้โดยตรงเมื่อมีข้อสงสัยระหว่างเรียน ปรึกษา/วางแผนเตรียมสอบ (เคมี) ได้เหมือนมีโค้ชส่วนตัว
12. ได้เนื้อหาแน่นกว่า ฝึกโจทย์ลึกกว่า โดยใช้เวลาน้อยกว่า เพราะได้ฝึกสิ่งที่ต้องใช้ตอนสอบจริงล้วนๆ ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการถูกป้อน
น้องรุ่นก่อนๆ ได้สิ่งเหล่านี้มาแล้ว น้องก็จะได้อะไรๆ แบบนี้เช่นกัน
.
เอาไปใช้ทำข้อสอบยากๆ ได้แบบสบายๆ
…
.
แต่ยังไงก็ตาม
“คอร์สนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคนครับ”
คอร์ส StepUp มีวิธีเรียน+เทคนิคฝึกโจทย์ ที่ใช้โจทย์นำเนื้อหา เพื่อแก้อาการ เรียนเข้าใจแต่ทำโจทย์ไม่ได้ และอาการ ขึ้นบทใหม่ลืมบทเก่า จึงเห็นผลเร็ว ทำคะแนนได้สูง โดยใช้เวลาเรียนน้อย สำหรับน้องที่พร้อมจะเรียนรู้ด้วยวิธีการใหม่ๆ กล้าคิดกล้าทำ
.
คอร์สนี้ 🚫ไม่เหมาะกับใคร
และ ✅เหมาะกับใคร
.
1. ไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบเรียนแบบที่เคยชิน ชอบฟัง ชอบจดตามครู ไม่ชอบคิดเอง รอจดเฉลย
แต่เหมาะกับ น้องที่พร้อมปรับวิธีเรียนเพื่อฝึกคิดฝึกทำ จนแก้โจทย์เองเป็น หาคำตอบเองได้คล่อง
.
2. ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังหาสรุปเนื้อหาหรือสูตรลัด หรือคอร์สพาทำโจทย์ เพื่อจำสรุป/สูตรลัด/สเต็ปการคิดไปทำข้อสอบ
แต่เหมาะกับ น้องที่อยากรู้ที่มาที่ไป เข้าใจแบบไม่ต้องจำเยอะ อยากฝึกวิเคราะห์ ประยุกต์ พลิกแพลง โกยคะแนนได้แม้จะเจอโจทย์ใหม่ๆ ที่ไม่คุ้น
.
3. ไม่เหมาะกับผู้ที่อยากได้คอร์สเรียนยาวๆ ชม.เยอะๆ หรือดูความละเอียดของเนื้อหา/ความคุ้มค่าจากจำนวน ชม.เรียน
แต่เหมาะกับ น้องอยากได้วิธีเรียนรู้ที่เห็นผลเร็ว เซฟเวลาเรียนไป 2-3 เท่า แล้วยังทำคะแนนได้สูงขึ้น
.
4. ไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่มีวินัยในการเรียน ต้องมีครูคอยตามคอยจี้ให้ทำ
แต่เหมาะกับ น้องที่มีความรับผิดชอบ มีความตั้งใจ เรียนอย่างสม่ำเสมอ สงสัยก็กล้าแชทถามครูให้เคลียร์ ไม่เก็บเอาไว้ให้คาใจ
สอบติด สอวน.
….
.
.
แล้วคอร์ส StepUp M456 นี้เรียนยังไง?
– เรียนออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์นี้ คลิปเรียนเป็น VDO คัดพิเศษ (ไม่ใช่เทปอัดจากห้องสด) คลิปเรียนที่นี่ 1 ชม. ได้เทียบเท่าเรียนสด 2 ชม.
.
-1 คน ต่อ 1 User Account เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา
.
– เรียนได้ผ่านคอมฯ แท็บเลต และสมาร์ทโฟน
.
– หนังสือเรียน จัดส่งให้ถึงบ้าน (ฟรี).
– ไม่จำกัดชั่วโมงเรียน ภายในอายุคอร์ส เรื่องละ 5 เดือน (นับอายุแยกเรื่อง)
– เลือกคอร์สด้านล่าง กรอกข้อมูล และตั้ง Username/Password (สำหรับเข้าเรียน)
.
– เลือกวิธีชำระ (โอน/บัตรเครดิต/ผ่อน 0%) จากนั้น แจ้งชำระพร้อมกรอกที่อยู่จัดส่ง.
.
รีบนะครับ..รับจำนวนจำกัด
เพื่อให้ครูดูแล ตอบคำถาม น้องได้อย่างทั่วถึง เลือกคอร์ส (รายเทอม หรือ แพครวม).
.
ถ้าสิ่งนี้ตรงกับสิ่งที่น้องตามหา
มันไม่มีเหตุผลที่น้องจะเอาอนาคตไปเสี่ยงกับการสอบครั้งนี้ด้วยการเตรียมตัวไม่ถูกวิธี อย่าปล่อยให้คู่แข่งของน้องใช้วิธีนี้ทำคะแนนสอบ ในขณะที่น้องกำลังเรียนด้วยวิธีเดิมๆ