ถูกต้องแล้วที่น้องนึกถึงเรื่องนี้
สำหรับน้องที่รู้สึกว่าตัวเองพื้นฐานไม่ดี อ่อนเคมี กลัวจะไม่ไหว ตามไม่ทัน
น้องสามารถฝึกได้ เริ่มจาก StepUp ที่จะปูพื้นเคมี ม.ปลาย ให้น้องใหม่ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่วิธีเอาความรู้เข้าสมอง วิธีอ่าน วิธีฝึกโจทย์ เรียงจากง่ายไปยาก ผ่านคอร์สฝึกที่นี่ ซึ่งเห็นผลเร็วกว่าคอร์สเรียนทั่วไป (ครูกุ๊กได้ทดสอบมาแล้วเห็นผลชัดเจนต่อเนื่องเกิน 10 ปี) คำตอบอยู่ในคลิปข้อ 2
สำหรับน้องพื้นแน่น ทำโจทย์ได้แล้ว
สิ่งที่น้องกังวลกันคือ เห็น ชม.คอร์สที่ดูน้อย นั่นแพราะ “คอร์สฝึก” ต่างกับ “คอร์สเรียน” และ “วิธีฝึก” ก็ไม่เหมือน “วิธีเรียน”
รับประกันได้เลยว่า น้องจะได้ทั้งเนื้อหาและฝึกโจทย์ไปพร้อมกัน โดยใช้เวลาน้อยกว่า เราใช้วิธีไหน ทำยังไง คำตอบรออยู่ในข้อ 2, 3
ปัญหาใหญ่ที่ 96%ของนักเรียนเจอกันคือ – ตอนเรียนจะเข้าใจแต่พอเจอข้อสอบกลับทำไม่ได้ – ทำโจทย์ได้แต่ไม่ทันเวลา – เรียนแล้วลืม
เรียนเข้าใจแต่แก้โจทย์ไม่เป็น หาคำตอบไม่ได้ พูดอีกอย่างก็คือ “มีความรู้แต่ดึงออกมาใช้งานไม่ได้” เมื่อความรู้ที่ได้รับมาไม่ถูกนำมาใช้ สมองจะทยอยลืมข้อมูลเหล่านั้นไป .
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะ? คุณคิดว่าเกิดจากอะไร?
ปัญหานี้สาเหตุมากจาก “วิธีการเรียนรู้” ซึ่งมี 3 Step หลักๆ คือ
Step 1 สมองรับข้อมูล
Step 2 เอาข้อมูลนั้นไปใช้ แล้วเกิดการเชื่อมโยมกับความรู้เดิม
Step 3 ได้ลองผิดลองถูก เรียนรู้จากความผิดพลาด เส้นใยสมองที่เชื่อมโยงกันจะแข็งแรง จนกลายเป็นทักษะ และคุณจะไม่ลืม
ถ้าคุณเรียนรู้ด้วยวิธี ฟังครู ดูกระดาน จดตาม อ่านเนื้อหา จะอยู่ใน Step 1 (ซึ่งลืมง่ายมาก) ถ้ามีครูพาทำโจทย์ คิดตามที่ครูคอยบอกคอยแนะ ได้แนวทางวิธีแก้โจทย์แบบต่างๆ (อาศัยจำวิธีคิดไปแก้โจทย์) จะอยู่ในสเต็ปที่ 2 (ซึ่งก็ไม่นานก็จะลืมอยู่ดี)
ถ้าไปได้แค่ Step 2 เส้นใยเชื่อมโยงจะยังไม่แข็งแรง จะลืมง่าย ทำให้เสียเวลากับการเรียนมาก เพราะต้องย้อนทวนซ้ำ ย้ำอ่าน วนอยู่กับ Step 1-2 หลายรอบ จนหลงคิดว่าเป็นคนลืมง่าย ความจำไม่ดี ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ครับ สมองจะจำหรือจะลืม เราบังคับไม่ได้
กลับกัน ถ้าคุณไปให้ถึง Step 3 คุณจะใช้เวลากับการเรียนน้อยลง เพราะเมื่อสมองใช้ความรู้นั้นเป็น ดึงออกมาแก้ปัญหาได้ ก็จะไม่ลืม และต่อยอดความรู้ชุดถัดไปได้เลย (ไม่เสียเวลา ทวนซ้ำ ย้ำอ่าน)
แต่การจะไปถึง Step 3 ผ่านวิธีเรียนที่ต้อง ฟังครู ดูกระดาน จดตาม นั้นยากมาก เพราะสมองไม่ชอบการเรียนรู้แบบนี้ สมองคอยบอกคุณอยู่เรื่อยๆ โดยทำให้คุณง่วง หาวตอนเรียน
ยังมีวิธีเรียนรู้อีกแบบหนึ่งที่สมองชอบ ที่เรียกว่า
ACTIVE LEARNING / ACTIVE RECALL ซึ่งคุณจะไม่ง่วง เพราะสมองจะตื่นตัว กระหายข้อมูล (Step 1) พร้อมที่จะคิดหาทางแก้ปัญหา (Step 2) ลองผิดลองถูก/เรียนรู้จากความผิดพลาด (Step 3)
โดยจะเกิดรวดเดียวไปถึง Step 3 ได้เลย
ซึ่งหนังสือที่ใช้เรียนและโจทย์ฝึก จะออกแบบมาโดยเฉพาะ ให้สอดรับกับการเรียนรู้แบบนี้ และถ้าเรียนผ่านคลิปวิดีโอที่ออกแบบและจัดเรียงมาแล้วจะเรียนรู้ได้เร็ว และใช้เวลาน้อยกว่าเรียนสด จากเดิมที่ต้องเรียนเคมีเกือบร้อยชั่วโมง กว่าจะจบของ 1 เทอม คราวนี้คุณจะจบได้ใน 30 ชม.
คนส่วนใหญ่ชินกับการเรียนรู้แบบ PASSIVE (ฟังครู ดูกระดาน จดตาม) มาตั้งแต่ประถมจนอาจไม่รู้ว่าสมองของคุณนั้นดีกว่าที่คุณคิด หากคุณปลุกสมองให้ตื่นตัวด้วยวิธีเรียนรู้แบบ ACTIVE นั้น ช่วงแรกที่คุณปลุกมันจะยากหน่อย เพราะสมองถูกยัดเยียดป้อนความรู้ใส่มาตลอดแบบ PASSIVE คุณต้องค่อยๆกระตุ้นให้สมองกระหายข้อมูลก่อน แล้วมันดูดซับความรู้เข้าไปเอง (ซึ่งมีวิธีการบอกในปฐมนิเทศของคอร์สเรียน)
เมื่อสมองชินกับวิธีเรียนรู้แบบ ACTIVE แล้ว มันจะต่อต้านวิธี PASSIVE โดยอัตโนมัติ (เช่น คุณอาจบอกผู้สอนว่า “อย่าเพิ่งเฉลย ขอคิดเองก่อน” หรือ คุณจะชอบทำโจทย์ไปพร้อมๆกับอ่านเนื้อหา) แล้วลามไปวิชาอื่นๆ อย่าง ฟิสิกส์ คณิต ชีวะ ฯลฯ โดยคุณไม่รู้ตัว
มันจึงคุ้ม..ที่คุณจะเรียนเคมีที่นี่ แล้วเอาวิธีเรียนรู้แบบ ACTIVE ไปใช้เก็บวิชาอื่นๆ ต่อ
ประกอบด้วย 2 ส่วนครับ
ส่วนแรกคือ ด้วยวิธีเรียนรู้แบบ ACTIVE ที่อธิบายในคำถามที่แล้ว (ข้างบน) สมองจะเก็บข้อมูลไปพร้อมๆกับการดึงออกมาใช้แก้ปัญหา ข้อมูลความรู้ที่เรียนมานั้นจะเก็บอยู่ถูกที่ถูกทาง เชื่อมโยงกับความรู้เดิมในสมอง จึงทำให้แก้โจทย์เป็นเร็ว ไม่ค่อยลืมเนื้อหา ไม่ต้องเสียเวลาย้อนทวน อ่านซ้ำ การเรียนรู้จึงไปได้เร็ว
และความรู้ที่เรียนตอน ม.4 แม้จะขึ้น ม.6 แล้วก็ยังนึกออก ใช้งานแก้โจทย์ได้ คุณไม่จำเป็นต้องลงคอร์สรวม ม.4-6 ใหม่ตอนอยู่ ม.6 เพื่อเตรียมเตรียมสอบเข้าฯ ก็ประหยัดทั้งเวลาและค่าเรียนส่วนนี้ไปได้อีกมา
ส่วนที่สองคือ ตัวคลิปเรียนที่ออกแบบ/เรียบเรียง/ตัดต่อ ในสูตฯ (ไม่ใช่เอาคลิปอัดจากห้องสดมาให้เรียน) เราจึงสามารถตัดช่วงที่เป็นน้ำ ที่ผู้เรียนมักจะกดกรอข้าม (Waste time) เช่น
– มีคนถามอะไรที่เราไม่ได้อยากรู้
– มีพูดคุยนอกเรื่องเป็นระยะ
– ช่วงรอผู้สอนเขียนกระดาน ตอนจะลบเพื่อขึ้นเรื่องใหม่ก็ต้องรออีก
– ผู้สอนพักดื่มน้ำ จิบกาแฟ
ทำไมเราต้องมาเสียเวลากับสิ่งที่ไม่ใช่เนื้อหาความรู้ (waste time) พวกนี้ จริงอยู่ที่ในคอร์สสดนั้นตัดสิ่งเหล่านี้ออกไม่ได้ แต่คลิปที่อัดมาให้เรียนย้อนหลังสามารถ trimming หรือ editing out ได้ ให้เหลือเฉพาะเนื้อๆ ได้ ซึ่งจะเซฟเวลาเรียนได้
ผมเลยลองเอาหลายๆคลิปสอนสด มาตัดเอาช่วง waste time ทั้งหลายออกไป ปรากฎว่าคลิปสั้นลงไปเกือบครึ่ง นี่แปลว่าเราเสียเวลาไป 2 เท่ากับคอร์สเรียนที่ไม่ได้ triming มาตลอดหรือเนี่ย
ด้วยเหตุผลนี้ ผมจึงเลิกเปิดคอร์สเรียนสด และออกแบบคลิปสอนใหม่ให้คอร์สเรียนเคมีครูกุ๊กไม่มีช่วง waste time ถ้าจะพูดให้เห็นภาพ คอร์สเคมี ม.4-5-6 รวมทุกบบท ที่คุณต้องเรียนสด 140 ชั่วโมง คราวนี้คุณจะเรียนจบได้ผ่าคลิปเรียน 80 ชั่วโมงเท่านั้น ในคอร์ส StepUp อันนี้ dekwiz.com/chemistry-course/step-up-m456/
ด้วยเหตุผลทั้ง 2 ส่วนนี้ วิธีเรียนรู้แบบ ACTIVE ที่สมองชอบ กับ คลิปเรียนที่ออกแบบมาสำหรับวิธี ACTIVE นี้ จึงทำให้คุณเรียนรู้ได้เร็วขึ้น (ใช้เวลาเรียนน้อยลง) กว่าเดิม 3-4 เท่า
คลิปในคอร์สเรียนสามารถกดกรอเร่งความได้ x1.25 หรือ x1.5 แต่เชื่อเถอะว่าคลิปเรียนเคมีในคอร์สครูกุ๊กนั้นมีแต่เนื้อ ไม่มีน้ำให้คุณต้องกดกรอเร่ง (คำอธิบายอยู่คำถามข้อก่อนหน้า)
โจทย์ในคอร์สจะเรียงจากง่ายไปยาก ง่ายคือเริ่มจากพื้นฐานแลย แล้วค่อยๆเพิ่มลูกเล่น จุดลวง กับดัก (แบบเดียวกับที่คุณต้องเจอตอนสอบ) โดยเพิ่มเข้าไปทีละนิดๆ ไต่ระดับไปจนถึงโจทย์ข้อสอบแข่งขัน โรงเรียนไหนที่ออกข้อสอบยาก (เช่น เตรียมอุดม สาธิตฯ) คอร์ส StepUp เอาอยู่ครับ โจทย์ในคอร์สรวมถึงเทคนิคการคิดที่คุณได้จากครูกุ๊ก จะพาคุณไปถึงสู่ระดับต้นๆ ของประเทศได้
จำนวนชั่วโมง
ทุกคอร์สฝึก เข้าได้ไม่จำกัดชั่วโมง ตลอดในอายุ 5 เดือน หลังกดเริ่มฝึก คือน้องสามารถดูย้อน ดูซ้ำได้ทุกคลิป ที่จำกัดคือ 1 คน/ 1 USER (เรามีระบบ BDAi ตรวจสอบการใช้งาน)
การนับอายุคอร์ส
แต่ละคอร์สจะแบ่งเป็นพาร์ทๆ อิสระจากกัน
สมมติมี 2 พาร์ท น้องกดเริ่มเรียนพาร์ท 1 ก็จะนับอายุเฉาพะพาร์ทแรก (พาร์ท 2 จะยังไม่นับ)
แต่ละพาร์ทจะมีอายุ 5 เดือน เท่ากับว่า 1 คอร์สที่น้องสมัครมา สามารถฝึกได้ถึง 10 เดือนเลย
เวลาที่ใช้
ทุกคอร์สจะใช้เวลาคาบละ 1 ชม. 15 นาที (เฉลี่ย) ต่อ 1 คาบ ซึ่งมีความยาวคลิปเฉลี่ย 45 นาที
คอร์ส StepUp (แบบ Full Version 5 เล่ม แยกเทอม)
แต่ละคอร์สจะมีความยาว 14-18 ชม.คลิป หรือมี 20-24 คาบเรียน
– ใช้เวลาฝึกประมาณ 24 ชม. สำหรับ 1 เทอม
– ใช้เวลาฝึกจริงประมาณ 120 ชม. สำหรับเคมีทุกบท ม.4-6
คอร์ส StepUp (แบบเร่งรัด Emergency คล้ายคอร์สเอนท์ฯ)
จะแบ่งเป็น 2 คอร์ส เคมีคำนวณ/เคมีบรรยาย แต่ละคอร์สจะมีความยาว 24 ชม.คลิป
– ใช้เวลาฝึกคอร์สละประมาณ 30-35 ชม. สามารถเร่งให้จบได้ใน 2-3 สัปดาห์ (หากฝึกวันละ 2-3 ชม.)
– ดังนั้นน้องสามารถจบเคมีทุกบท (ม.4-6) ภายใน 1-2 เดือน
คอร์สตะลุยโจทย์
แต่ละคอร์สจะมีความยาว 30 ชม. (มี 47 คาบเรียน) ใช้เวลาฝึกประมาณ 45-50 ชม.
คอร์สที่น้องเคยสมัครแล้ว หากจะต่ออายุ ให้กดสมัครใหม่ น้องจะได้อายุคอร์สเหมือนสมัครใหม่แต่จ่ายเพียง 50% ของราคาปกติ
มีคู่มือ/โจทย์ฝึกของแต่ละคอร์สให้ ไม่ต้องซื้อแยก และเราส่งให้ถึงบ้านโดยไม่มีค่าส่ง
แต่ละคอร์สมีหนังสือกี่เล่ม?
แต่ละคอร์สฝึกจะมี 1 เล่ม และจะมีคู่มือ TOP อีก 1 เล่ม ที่ใช้ควบคู่ไปกับทุกคอร์ส
น้องที่สมัครครั้งแรก จะได้หนังสือตามคอร์สที่น้องสมัคร และจะได้คู่มือ TOP ไปด้วย
สำหรับการสมัครครั้งต่อไป น้องจะได้รับหนังสือตามคอร์สเรียนที่สมัคร
คลิปในยูทูบ เป็นของปี 57-58 ยังเป็นคอร์สเรียนที่ใช้เวลามากกว่า ยังอัปเดทเป็นคอร์สฝึกแบบในเว็บนี้
ฟังจากประสบการณ์น้องๆที่เคยเรียนมาทั้ง 2 แบบ


ยังหาหนังสือหัวใจเคมีได้อยู่ไหม?
หนังสือหัวใจเคมีหยุดผลิตเพิ่มมาหลายปีมากแล้ว เพราะมีการอัปเดทเป็นคอร์สฝึกใหม่ๆออกมา ที่ได้ผลดีกว่ามาก
กดดูประวัติที่ dekwiz.com/aboutus
เคมีครูกุ๊ก ไม่ได้อัปเดทคอร์สเป็นรายปี เพราะมันช้าเกินไป และคุณอาจพลาดอะไรดีๆไป
สิ่งที่เคมีครูกุ๊กทำคือ
แบบนี้จึงยากที่จะตอบว่า คลิปเรียนนี้อัดปีไหน เพราะคลิปในคอร์สถูกอัปเดทพัฒนาโดย ครูกุ๊กและนักเรียนหลายพันคนในระบบได้ตลอดเวลา
สำหรับข้อสอบปีใหม่ๆ ล่าสุด ก็ยังตรงกับแก่นหลักสูตรที่วางไว้ เปลี่ยนเพียงเปลือกนอก หากมีอะไรนอกเหนือไปจากนั้น ครูจะอัดคลิปเสริม อัปเดทเข้าไปในคอร์ส
เรียกได้ว่าทุกนาทีที่คุณได้เรียนเป็น The Best ของครูกุ๊ก
หากมีจุดสงสัย ก็สามารถแชทเข้ามาคุยกับครูกุ๊กได้ทันที