น้องที่อยากโกยคะแนนเคมี

.
⭐️ แม่นคอนเซปต์ รู้ทันกับดักจุดลวงในข้อสอบ 

⭐️ ทำโจทย์คล่องทุกบท วิเคราะห์ ประยุกต์เป็น

⭐️ เทคนิค(ลับ) โกยคะแนนสอบเพื่อเข้าหมอ ทันตะ เภสัช วิศวะ 

96%ของนักเรียนกำลังเจอปัญหานี้?
.

1. ตอนเรียนรู้เรื่อง แต่ติดขัดตอนทำโจทย์
.
2. พลาดจุดลวง กับดักในข้อสอบ
.
3. คิดช้า ทำข้อสอบไม่ทันเวลา
.
4. ขึ้นบทใหม่.. ลืมบทเก่า
.

.

หลายคนพยายามแก้ปัญหา

แก้ได้อย่าง ก็ไปเจอปัญหาอีกอย่าง

.

เพราะไม่ได้แก้ที่ต้นตอ

ถ้าน้องไม่อยากเจอปัญหาพวกนี้อีก

.
ครูมีวิธีแก้ น้องทำตามได้ “ทันที”

สนใจมั้ยครับ?

.
………..

 

ข่าวดีคือ…

ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากตัวน้อง


เพียงแต่เราบังคับสมองไม่ได้ !

 

บางเรื่องที่อยากลืม.. เรายังลืมไม่ได้เลย
.
เราก็บังคับสมองให้จำไม่ได้เหมือนกัน
.
เห็นด้วยมั๊ยครับ

.
.
สมองจะลืมไปกี่% หรือจะจำได้กี่%
.
สมองจะเก็บความรู้ไว้ตรงไหน
.
จะดึงออกมาใช้ยากหรือง่าย
..
อยู่ที่วิธี “เอาความรู้ใส่สมอง”

.
.

ห้องเรียนที่เราคุ้นเคยกันมาแต่เด็ก

ฟังครู ดูกระดาน จดตาม (PASSIVE เขียวฟ้า) ความรู้จะติดสมองได้ 1030% ที่เหลือจะค่อยๆลืมไปใน 2 สัปดาห์

  • นั่นคือสาเหตุที่ต้องมีการบ้าน ให้น้องไปทบทวน
  • แต่ถึงอย่างนั้น.. พอขึ้นเทอมใหม่ ก็มักลืมของเทอมเก่า 
  • ชม.เรียนเด็กไทยถึงสูงติดอันดับโลก ส่วนคุณภาพก็อย่างที่เห็นกันอยู่

.

จึงไม่แปลกที่ น้อง ม.6 ต้องเสียเวลาไปกับการเรียนเนื้อหา ม.4 ซ้ำอีก ตอนเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย

เรียนเข้าใจแล้ว ก็ไม่ได้แปลว่าจะทำข้อสอบได้
.

..

ถ้าคะแนนออกมาไม่ดี..

เราจะรู้สึกว่า..เพราะไม่ขยัน ไม่อ่านหนังสือ ไม่ทำการบ้าน
.
พอโทษตัวเองไปแล้ว ก็เลยไม่รู้สาเหตุจริงๆของปัญหาว่าคืออะไร

ปัญหาอยู่ที่
“วิธีเรียน”
ไม่ใช่ “ผู้เรียน”

.

video
play-rounded-fill

วิธีเรียน.. แบบเหลืองส้ม (Active learning) สมองจะเก็บความรู้ได้ 70-90% ตั้งแต่ครั้งแรก น้องจะเรียนรู้ได้เร็วขึ้น
.
การฝึกเรียนวิธีนี้จะเหนื่อยกว่าแบบฟังครู ดูกระดาน จดตาม แต่น้องจะเหนื่อยแค่ช่วงแรกที่ยังไม่ชิน พอชินแล้วจะสบายในระยะยาว เพราะฝึกรอบนี้..ใช้ได้จนเรียนจบ-ทำงานเลย
.
.

ยกตัวอย่าง

สมมติถ้าน้องจะเรียนเคมีใน 1 เทอม (ฟังครู-ดูกระดาน-จดตาม) น้องต้องใช้เวลาร้อยกว่าชั่วโมง เพื่อเข้าเรียน+อ่านทวน+ทำการบ้าน
.
พอขึ้น ม.6 ใกล้สอบเข้าฯ หลายคนลงคอร์สเอ็นฯ ย้อนเรียนของ ม.4-5 ซ้ำอีก เพราะลืมไป 70-80% น้องไม่อยากเสียเวลาไปแบบนี้ใช่ไหมครับ?
.
วิธีฝึกที่นี่น้องจะใช้เวลาน้อยกว่าเดิมมาก เพราะเพียง 25-30 ชม. ก็จบทั้งเทอม
– ได้ทั้งแม่นเนื้อหา+ทำโจทย์คล่อง ที่สำคัญคือไม่ลืมที่เรียนไป
– พอขึ้น ม.6 ใกล้สอบเข้าฯ ไม่ต้องย้อนเรียนซ้ำ ไปตะลุยโจทย์ต่อได้เลย
.

**วิธีเรียนรู้นี้ถูกใช้ในคลาสเรียนหลายๆประเทศ และนำไปประยุกตร์ใช้ในหลายๆด้าน (กูเกิลเสิชด้วยคีย์เวิร์ด learning by doing, brain จะเจอ)
.

ผลลัพธ์เมื่อใช้วิธีนี้

น้องอาร์ม หลังจากอดทนปรับตัวจนเริ่มชินวิธีเรียน/ฝึก ก็ทำโจทย์ได้คล่อง และเซฟเวลาไปได้เยอะ

 

ในปีที่ข้อสอบเคมีเปลี่ยนแนว ยากขึ้น คะแนนเฉลี่ยทั้งประเทศลดลง น้องปพน ฝึกโจทย์ที่นี่เผื่อไว้  (ยากกว่าข้อสอบจริงนิดๆ) จนสามารถสอบติดทันตะมหิดล

 

น้องกล้า ได้คะแนนเคมีท็อประดับชั้น หลังจากเรียนไปเทอมเดียว

 

น้องปอนด์ มาฝึกที่นี่เพื่อแก้ปัญหาทำข้อสอบช้า ไม่ทันเวลา แล้วสอบติดหมอศิริราช

 

น้องหลิว ฝึกโจทย์ชุดพิเศษที่นี่แล้วไปลองสอบพรีแอดฯ ได้คะแนนสูงสุดของประเทศ

 

สอบติด สอวน. เคมี | น้องกัญจ์ที่เคยส่งกระดาษเปล่าก็มาสอบได้ | น้องสารัชที่ไม่ถนัดเคมีก็เข้าไปถึงค่าย 3  | น้องเพชร ไปถึงค่าย 2 ได้ตั้งแต่ ม.3

 

 

 

 

 

 

 

 

 

น้องนัท..ที่เรียนจบทุกบทแล้ว แต่ลองทำข้อสอบแล้วรู้สึกไม่ไหว เลยคิดจะรื้อใหม่ เลยมาฝึกที่นี่จนจับทางข้อสอบได้ และนำปรับใช้กับวิชาอื่นด้วย คะแนนออกมาก็สูงมาก

.

น้องเอิร์นที่ทำโจทย์เคมีแทบไม่ได้เลยตอนเดือนมกรา น้องมาฝึกวิธีนี้2เดือน จนถึงวันสอบ.. น้องทำคะแนนเคมีได้ 78/100 แล้วติดแพทย์ตามที่หวังไว้

.
.
.
.
.

.

มาสัมผัสประสบการณ์

คอร์สเคมีครูกุ๊ก
.
ใน StepUp เคมี

แล้วไปโกยคะแนนสอบให้สะใจ
.

จากประสบการณ์จริงของผู้ที่เคย

เสียเวลาไปกับการเรียนไม่ถูกวิธี

เจอโจทย์แล้วไปไม่เป็น..